หน้าร้อน! ระวังกระมาเยือน
………หน้าร้อนแบบนี้สาวๆ หลายคนกังวลเรื่องปัญหากระที่มาเยือนบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว ยิ่งสาวๆ ที่มีผิวขาวก็ต้องยิ่งระวังมากเป็นพิเศษเพราะว่าผิวจะไวต่อแสดงแดดมากกว่าสาวผิวคล้ำเนื่องจากมีเม็ดเมลานินน้อยกว่าสาวผิวคล้ำ เพราะเม็ดเมลานินมีหน้าที่ป้องกันอันตรายจากแสงแดด เวลาสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน นั่นเอง
กระมีหลายชนิดมีทั้ง
1. กระตื้น เกิดจากแสงแดดหรือลม มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ เกิดได้ทั่วใบหน้า ไม่นูน ส่วนมากจะเป็นสีน้ำตาล
2. กระเนื้อ เกิดจากแสงแดดหรือลม มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-2 มม. เกิดได้ทั่วใบ เน้นขมับหรือหน้าผาก จะนูนขึ้นมาจากผิวหนัง ส่วนมากจะเป็นสีน้ำตาล
3. กระลึก เกิดได้จากกรรมพันธุ์ หรือจากฮอร์โมน จะเป็นกระที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง จะมีสีเทาๆอมน้ำเงินถึงสีดำๆ กว้างกว่ากระเนื้อ มีลักษณะเป็นวงกลมๆ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-3 มม. ส่วนมากจะขึ้นบริเวณโหนกแก้ม
วิธีการรักษา
………ปัจจุบันการรักษากระสามารถทำได้ง่ายและเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นด้วยการเลเซอร์ ซึ่งไม่ว่ากระตื้น กระเนื้อ และกระลึกสามารถรักษาด้วยวิธีการเลเซอร์ ซึ่งจำนวนครั้งในการทำเลเซอร์จะอยู่ที่ลักษณะของกระที่ขึ้นบนใบหน้าว่าเป็นกระชนิดใด
กระตื้น – สามารถรักษาด้วยวิธีการเลเซอร์ ทำเพียง 1 -2 ครั้งกระก็จะจางหายไป
กระลึก – เป็นกระที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถรักษาด้วยเลเซอร์ให้จางหายไปได้ ความถี่ในการทำ 2-5 ครั้งแล้วแต่กรณี และยังสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการกรอผิวหน้า เพียง 1-2 ครั้งก็จะเห็นผลชัดเจน
วิธีป้องกันและยืดระยะเวลาในการเกิดกระให้น้อยที่สุดและช้าที่สุด
1. บำรุงผิวหน้าและทาครีมกันแดดทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ในร่ม หรือ กลางแจ้ง
2. หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีแดดแรง 9 โมงเช้า – 5 โมงเย็น หากมีความจำเป็นต้องเผชิญกับแสงแดดและลมแรงให้กางร่มและสวมหมวก
3. ในกรณีที่มีลมแรงๆ ควรปกปิดใบหน้าเพื่อไม่ให้โดนลมและไอร้อนจากแสงแดดด้วย
……..ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยยืดระยะเวลาในการเกิดกระขึ้นมาใหม่ได้นานขึ้น แต่ทางที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหากระควรมาปรึกษาแพทย์ด้วยตัวเอง แพทย์จะได้แนะนำวิธีรักษาได้อย่างถูกต้อแม่นยำยิ่งขึ้น
ข้อมูลจาก ยศการคลินิก
อาบน้ำอย่างไรให้ผิวสวย
คุณสาวๆที่รู้สึกขยาดกับความเย็นวาบของน้ำเย็นน้ำร้อนน่าจะเป็นคำตอบที่ดีค่ะ เพียงแต่ต้องระวังนิดนึง โดยควรตั้งอุณหภูมิไว่ที่ 38-40 องศาเซลเซียส แต่ไม่ควรนานเกินกว่า 10-15 นาที ซึ่งน้ำร้อนจะทำให้รูขุมขนเปิดกว้าง ดังนั้นหลังจากการอาบน้ำควรทาครีมบำรุงผิวแห้งจากการสูญเสียไขมันขณะอาบน้ำ จากนั้นหากได้จิบชาร้อนๆสักถ้วยยิ่งดีเลยค่ะ
สำหรับสาวๆที่ขี้ร้อน ชอบความสดชื่นเป็นชีวิตจิตใจ เหมาะกับน้ำเย็นมากที่สุด โดยควรให้อุณหภูมิอยู่ที่ 21-27 องศาเซลเซียส ช่วยลดอาการอ่อนเพลียของกล้ามเนื้อและทำให้ผิวพรรรเต่งตึง รวมถึงระบบหายใจอีกด้วย
โดยเริ่มจาการค่อยๆราดน้ำเย็นบนใบหน้า แขนและขา เพื่อให้ร่างกายปรับตัว จากนั้นให้ใช้ฟองน้ำขัดเบาๆค่ะ ขั้นตอนสุดท้ายอย่าลืมใช้ฝ่ามือตบเบาๆทั้งตัวเพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวหนังและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
เคล็ดลับ 3 ขั้นตอนสู่ผิวสวย
1. ปัดถูร่างกายก่อนอาบน้ำ
ขอแนะนำให้คุณสาวๆนำผ้าขนหนูแห้ง โดยจับปลายผ้าทั้ง 2 ข้างไว้ แล้วเริ่มถูไปตามร่างกาย จุดละประมาณ 20 ครั้ง เพิ้อขจัดคราบไคล ฝุ่นละอองที่เพิ่งผจญมาทั้งวัน หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดไป ไม่จำเป็นต้องลงน้ำหนักมากหรือนานไปนะคะ เพราะผิวบอบบางอาจจะถูกทำร้ายำด้ค่ะ
2.ขัดผิวขณะอาบน้ำ
โดยแนะนำ Scrub สำหรับขัดทุกส่วนของร่างกาย เหมาะกับผิวที่ละเอียดอ่อนเท่านั้น อย่างหน้าอก หรือลำคอ ส่วนฟองน้ำ ใยบวบ หรือแปรงเหมาะกับผิวส่วนแขน ขา ไหล่และหลัง เพราะรองรับการขัดถูได้ดี สำหรับหินขัดแบบโบร่ำโบราณนั้นแน่นอนที่สุดควรใช้กับจุดที่แห้งกร้านอย่างข้อศอก เข่า หรือเท้าเท่านั้นค่ะ
3.นวดและฉีดน้ำ
ขณะอาบน้ำ เมื่อเกิดฟองสบู่สาวๆควรนวดไปมาวนเป็นวงกลมเพื่อผ่อนคลายและกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด หากใช้กับฝักบัวก็ให้เปิดแรงๆลงบนร่างกาย โดยวนไปมารอบอก ย้อนขึ้น-ลงบริเวณ แขน-ขา ก็จะช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี เปล่งปลั่งมากขึ้นค่ะ
ที่มาจาก นิตยสาร star fashion ฉบับที่ 183 คอลัมภ์ Healthy corner by taity
http://is-songhits.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น