Money In Stocks - ออมเงินในหุ้น

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เลือกหุ้น



การเลือกถือหุ้น 

หลังจากเขียนเรื่องการเก็งกำไรมาหลายตอน วันนี้จะลองมาเขียนการลงทุนระยะยาวอีกสักหัวข้อ เพราะเวลาเล่นเก็งกำไร เมื่อได้กำไรมาแล้วเดือนถัดมาก็มาเสียไปเหมือนเล่นการพนัน การสร้างความสมดุลของพอร์ตทั้งหมด ทั้งพอร์ตระยะยาวและระยะสั้นจึงจำเป็นเพื่อบริหารความเสี่ยงของพอร์ตของเรา

ถ้าเราได้ฟังนักลงทุน VI หรือโบรกเกอร์แนะนำวิธีการเลือกหุ้นที่ดีที่เราจะลงทุนในระยะยาวได้ นักลงทุนมือใหม่หลายคนก็คงจะมึนเล็กน้อยว่ามันยุ่งยากจัง แต่ถ้าทำได้ตามที่เขาแนะนำก็จะเป็นผลดีกับเรา เพราะเงินที่ใช้ลงทุนก็ไม่น้อยและมีความเสี่ยงพอสมควร

เราลองดูหุ้นใน SET50, SET100, SETHD (High Dividend, หุ้นปันผลสูง 30ตัว) ที่ตลาดหลักทรัพย์ได้จัดกลุ่มไว้จากหุ้นทั้งหมด 500กว่าตัว แล้วเราก็ค่อยศึกษาเพิ่มเติมว่า ค่า P/E, P/BV ที่บอกความถูกแพงของหุ้นเราจะใช้ในการเลือกหุ้นอย่างไร เช่น ถ้าอยู่ที่ 10-20% เป็นค่าที่เราจะเลือกหุ้นด้วยราคาที่เหมาะสมกับมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นตัวนั้นๆ (Fair value) นอกจากนั้นเราดู กำไรสุทธิ, ROE (อัตราผลผลตอบแทนของหุ้น) ว่าสูงหรือไม่ มีหนี้สิ้นมากน้อยแค่ไหน มีปันผล 5-10% ตามในตัวอย่างหน้าข้อมูลหลักทรัพย์ที่สรุปมาให้ในหน้าเดียว ไม่ยากแก่การทำความเข้าใจ (ข้อมูลหุ้นรายตัว)



แต่ข้อมูลในเอกสารยังไม่เพียงพอที่เราจะเชื่อได้ว่าหุ้นตัวนั้นดีจริง ถ้าใครที่เรียนมาทางบริหารธุรกิจในสาขา การจัดการทั่วไป การตลาด จะมองภาพของแต่ละธุรกิจได้ดีว่าธุรกิจมีลักษณะอย่างไร มีข้อดีหรือมีปัญหาอุปสรรคอย่างไร เข้าใจเรื่องโครงสร้างองค์กร กลยุทธ์การตลาด สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีพื้นฐานด้านธุรกิจ เรามองธุรกิจในมุมมองของผู้บริโภคที่ใช้บริการธุรกิจเหล่านั้น เช่น เราเข้า 7/11 บ่อยมากและคนอื่นก็เข้าบ่อยเหมือนเรา หลายๆ ครั้งเราเข้า 7/11 ในปั๊ม ปตท. เราได้สัมผัสกับธุรกิจและหุ้นสองตัวแล้วคือ CPALL และ PTT เมื่อมองในระยะยาวว่าสองธุรกิจนี้จะอยู่ไปอีกนานแค่ไหน ถ้าเจ้าของที่อเมริกาเรียกแฟรนไชส์ 7/11 คืน ธุรกิจนี้ก็จบ สำหรับ CPALL ซึ่งมีกำไรดีขนาดนี้เขาคงไม่เรียกคืนง่ายๆ ส่วนปั๊ม ปตท. เป็นบริษัทที่มีกำไรมากที่สุดในไทยและยังติดอันดับโลกด้วย ถ้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติยังไม่หมดโลกธุรกิจก็ดำเนินต่อไป

ลองดู SET50 หุ้นส่วนใหญ่ราคาอยู่ในช่วง 50-400บาท หุ้นราคาประมาณ 10บาท มีไม่กี่ตัว สำหรับมือใหม่เราเลือกหุ้นตัวเล็กๆ ใน SET50 ลงทุนระยะยาวได้สำหรับการเริ่มต้น แต่ถ้ามีเงินมากหน่อยลองพิจาณาหุ้น 100บาท ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการปันผลที่ดีกว่า 5-10% ซึ้งมากกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ตัวอย่างจาก SET50 ที่คนทั่วไปได้ใช้บริการ ได้แก่ กลุ่มธนาคาร ผู้ให้บริการโทรศัพท์ กลุ่มค้าปลีก เช่น BIGC, HMPRO, GLOBAL, ROBINS, CENTEL, MINT, MAKRO, BJC (บริษัทอายุ 131ปี, ผลิตขนม เทสโต และอื่นๆ – บริษัทนี้อายุมากกว่าชั่วอายุคน) แค่นี้ก็ซื้อไม่ไหวแล้วครับสำหรับมือใหม่ ซึ่งเป็นบริษัทที่เรารู้จักอยู่แล้วและเคยใช้บริการทั้งนั้น ที่เหลือก็จะเป็น กลุ่มพลังงาน ก่อสร้าง ส่งออก โรงพยาบาล เราก็ค่อยๆ พิจาณาดู บริษัทที่ไม่ติด SET50 ไม่ใช่จะเป็นบริษัทที่ไม่ดีนะครับ เราดูจากข้อมูลของบริษัทเปรียบเทียบด้วยตนเองได้

การเลือกหุ้นที่ดีจึงไม่น่าจะยากเกินไปสำหรับมือใหม่ เรามองในมุมที่จะเข้าไปถือหุ้นกับบริษัทนั้น เราจะมองเห็นข้อดีข้อเสียด้วยตัวเราเองได้ หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อหุ้นตัวนั้นลงมาต่ำมากๆ และถือให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ รอรับปันผลปีละสองครั้ง ถ้าไม่ได้ใช้เงินนำผลตอบแทนที่ได้ซื้อทบต้นในหุ้นตัวหลักที่ถือไว้ เพื่อให้พอร์ตของเราโตขึ้นเรื่อยๆ


Open every door and thank you 3 times.


By zurristic





หุ้นตัวนี้ ราคาต่ำสุดอยู่ในช่วงเดือนเมษายน

หุ้นตัวนี้ ราคาต่ำสุดอยู่ในช่วงเดือนกันยายน และ ธันวาคม





Age Technology & Antioxidant
สารต้านอนุมูลอิสระและชะลอความชรา












วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

หุ้นปั่น


 

เล่นหุ้นปั่น

หุ้นปั่น ในความเข้าใจของผมคือหุ้นที่ราคามีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างวันมากกว่าปกติ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงประมาณ 5-20% หรือถ้าผิดปกติมากๆ ก็จะมากกว่า 20% บางตัวไปถึง 100% ก็มี เช่น จากการมีข่าวว่าจะมีผู้เข้าซื้อกิจการของหุ้นตัวนั้น ถ้าท่านใดได้ติดตามดูหุ้น IPO จะเห็นว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากราคาเปิด ถ้าเป็นหุ้นตัวปกติอาจจะวิ่งอยู่ที่ 5-10% ในระหว่างวัน เราดูได้จากที่มีการเข้าซื้อขายมากกว่าปกติโดยมากจะเป็นหุ้นในหน้า Most active คือมีการเข้าซื้อขายติดกันเป็นวินาทีต่อเนื่องกันเป็นนาที

ถามว่าทำไมมีหุ้นปั่น ก็คงเป็นการทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นเพื่อการเก็งกำไรจากส่วนต่างของราคาที่แตกต่างกันมากๆ จากผู้ที่ทำการปั่นราคา หรือเพื่อให้คนสนใจที่จะเข้าซื้อหุ้นตัวนั้นมากๆ เพราะการเก็งกำไรเป็นการเล่นส่วนใหญ่ของคนในตลาดหุ้นและทำให้ตลาดมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา มีส่วนทำให้ตลาดโตขึ้น ดัชนี SET เพิ่มสูงขึ้น สร้างความน่าสนใจให้กลับนักลงทุนต่างชาติ

หุ้นปั่นจะมีความเสี่ยงมาก ผู้ที่จะเข้าซื้อต้องเข้าในราคาที่ต่ำที่สุดและออกให้เร็วเมื่อได้กำไรแล้ว ควรเล่นแบบ Day trade ไม่ควรถือข้ามวันเพราะหุ้นอาจจะมีราคากลับลงมาที่ราคาเปิดในระหว่างวันได้ทุกเมื่อ เพราะจะมีแรงขายพอๆ กับแรงซื้อที่ปั่นขึ้นไป หุ้นปั่นจะเกิดกับหุ้นตัวเล็กราคาประมาณไม่เกิน 50บาท เพราะสามารถซื้อขายหุ้นได้จำนวนมากๆ ทั้งในตลาด SET และ MAI

ในการเก็งกำไร เราจะต้องคำนวณค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเป็นรายเดือนว่าทั้งเดือนเราเสียค่าธรรมเนียมไปมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้รู้ต้นทุนจากการเล่นเก็งกำไร การเข้าซื้อขายแต่ละครั้งจึงควรวางแผนให้ดี และควรจะมีความเชื่อมั่นว่าจะได้กำไรมากกว่าขาดทุน ควรเลือกหุ้นด้วยตนเองถ้าทำได้ ส่วนหุ้นที่โบรกเกอร์แนะนำควรพิจารณาก่อนว่าเหมาะกับสถานการณ์ของเราหรือไม่ เช่น เราเล่นเก็งกำไรแต่มีการแนะนำให้เราเล่นถือยาว หุ้นตัวนั้นจึงไม่เหมาะกับเรา


 โปรแกรม i2trade
 เปอร์เซ็นต์การซื้อมากกว่าการขาย (แถบสีฟ้าและสีชมพู)


เราเริ่มจากการเปิดหน้า Most active value ดูหุ้นจากทั้งหมด 40อันดับ ดูเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงและราคาที่ขึ้นไปจากราคาเปิดของวัน เราจะเห็นตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าตัวอื่นๆ เราเลือกหุ้นตัวนั้นมาใส่ในหน้า Bids Offers ถ้าเห็นหลายตัวเลือกเอาไว้ทั้งหมด แล้วดูปริมาณการซื้อขายว่ามีการซื้อมากกว่าการขาย เช่น ซื้อ 1ล้านหุ้น ขาย 8แสนหุ้น จากนั้นดูเปอร์เซ็นการซื้อว่ามีมากกว่าเปอร์เซ็นการขายในวินาทีปัจจุบัน เช่น ซื้อ 60% ขาย 40% ดูกราฟรายนาทีว่าทั้งหุ้นตัวนั้นและกราฟ SET ยังเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง กราฟมีความชั่น 45องศา จากกราฟและปริมาณการซื้อขายจะช่วยให้เราหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นตัวนั้นได้ โดยเรารอจังหวะที่หุ้นตัวนั้นย่อตัวลงมาและเลือกเข้าจุดที่คิดว่าต่ำสุดในช่วงนั้น และอาจจะดูเครื่องมือ Simulate ที่บอกจุดซื้อขายเพื่อช่วยหาจังหวะเข้าซื้อ


 เลือกหุ้นที่จะติดตาม เอามาไว้ที่ Bids Offers 
ดูปริมาณหุ้นที่ซื้อมากกว่าปริมาณการขาย (BuyV, SellV)


นอกจากเราจะเทรดบนคอมพิวเตอร์ตามปกติ เราเทรดบนมือถือหรือแทบเล็ตด้วยวิธีการนี้ได้เช่นกัน จึงไม่ต้องกังวลว่าจะซื้อขายได้ไม่ทันถ้าไม่ได้อยู่หน้าคอมพิวเตอร์


High risk, high return.
ถ้าคุณพร้อมเผชิญกับมัน


By zurristic



อ่านเพิ่มเติม








Age Technology & Antioxidant
สารต้านอนุมูลอิสระและชะลอความชรา










วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แรงผลักดันหุ้น




แรงผลักดันจาการลงทุนในหุ้น

ผมมีความสนใจในการเล่นหุ้นในช่วงเรียน ป.ตรี จากเพื่อนที่ซื้อหนังสือหุ้นมาแล้วให้ยืมอ่าน แต่ผมคิดว่าจะเอาเงินที่ไหนมาเล่นจึงเลิกล้มความคิดไป หลังจากจบ ป.โท เพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นโบรกเกอร์ก็มาชวนให้เปิดพอร์ตหุ้น ผมบอกไปว่าไม่มีเงินเล่นหรอก หลังจากนั้นผ่านมาเป็นเวลา 10ปี น้องสาวเล่าว่าได้ลงทุนในหุ้นและกองทุนตามที่เคยเขียนไปแล้ว ผมจึงได้กลับมาคิดเรื่องหุ้นอีกครั้งแล้วได้โทรหาเพื่อนที่เป็นโบรกเกอร์คนนั้นว่ายังทำงานที่เดิมหรือป่าว และในที่สุดได้เปิดพอร์ตหุ้นกับเพื่อนด้วยเงินไม่ถึงแสน แล้วได้มาเปิดพอร์ตที่สองเพื่อลงทุนระยะยาวในสี่เดือนต่อมากับบริษัทหลักทรัพย์อีกแห่งหนึ่ง

ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องดวง แต่หลายๆ ครั้งของชีวิตมันก็อธิบายได้ยากว่าบางครั้งบางเหตุการณ์มันเหมือนถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วว่ายังไงก็ต้องเกิดขึ้นกับเรา ผมเป็นคนไม่ได้วางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้าไกลนัก เอาแค่ปีต่อปีไม่เกิน 3-5ปี แต่หลังจากได้เข้ามาเล่นหุ้นและได้รู้ข้อมูลของนักลงทุน VI ที่รู้จักและจากสื่อต่างๆ ทำให้เริ่มคิดว่าจะวางแผนแบบ 10ปี ดูบ้าง แต่รู้สึกเสียดายที่เข้ามาเล่นตอนอายุมากแล้ว

สิ่งแรกที่จะได้จากการเล่นหุ้นคือ การออมเงินในหุ้นในแบบลงทุนระยะยาว ควรจะวางแผนไว้ที่ 5-10ปี เช่น ลงทุนเดือนละ 5,000*12เดือน=60,000บาท ถ้าปันผล 5% ต่อปี=3,000บาท ใครที่ลงทุนมาแค่ปีสองปียังเรียกตัวเองว่า VI ไม่ได้นะครับ (อ่านเพิ่มเติม ลงทุนแบบทบต้น)


การวางแผนระยะสั้น อาจกำหนดว่าเก็งกำไรให้ได้วันละ 500บาท*20วันทำการ=10,000บาทต่อเดือน ถ้าทำกำไรได้ทุกวันซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะไม่ขาดทุนเลย หรือกำหนดว่าเก็งกำไรให้ได้สัปดาห์ละ 2,500บาท คือไม่เล่นแบบ day trade แต่เล่นรอบของหุ้นรายตัว จากการคำนวณรายได้แบบนี้ทำให้นักลงทุนที่ทำงานประจำมองว่าเป็นช่องทางที่จะเล่นหุ้นเป็นอาชีพแบบเต็มเวลาและลาออกจากงานประจำ เพื่อให้นำไปสู่อิสรภาพทางการเงินซึ่งมีนักลงทุนหลายๆ คนทำได้และประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้


น้ำหนาว


ผมเข้าสู่ตลาดหุ้นมาเป็นเดือนที่ 10 ได้บ้างเสียบ้าง ณ วันที่เขียนยังติดดอยอยู่ทั้งพอร์ต ที่คิดว่าตัวเองรู้ดีแล้วมันไม่ใช่เลย แต่ละช่วงสถานการณ์มันทำแบบที่เคยทำไม่ได้ มาเจอช่วงชุมนุมทางการเมืองอีกไปกันใหญ่เลยทีนี้ จึงยังต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ทุกหัวข้อที่เขียนมาเขียนหลังจากได้ทดลองทำไปแล้ว จนล่าสุดที่เขียนไปคือ DW ถ้าไม่ลองก็จะไม่เข้าใจวิธีการเล่น หลังจากต้องเจอตลาดขาลงหลายเดือนติดดอยลงไม่ได้ ก็ได้ DW เป็นทางออก ไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงเราก็ทำกำไรได้ และช่วยให้เราบริหารความเสี่ยงจากตลาดหุ้นได้

หุ้นจะช่วยให้เรามีรายได้เสริมเพิ่มขึ้น ชีวิตจะ Active ขึ้น เพราะต้องติดตามข่าวสารตลอดเวลา ชีวิตมีสีสันขึ้น ลืมความเบื่อหน่ายในงานประจำได้ ชีวิตดูจะมีความหวังมากขึ้น สิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำก็ได้คิด เช่น จะไปซื้อที่ทำบ้านพักตากอากาศหลังเล็กๆ บนภูเขาอากาศ 25องศาตลอดปี ลองปลูกกาแฟขี้ชะมดที่ราคากิโลละหลายหมื่นถึงแสนบาท ประมาณนี้


ชีวิตแสนสั้น ศิลปะนั้นยืนยาว ถ้าหุ้นเป็นช่องทางที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ไม่มากก็น้อย ลองเดินเข้าไปดูจะเสียหายอะไร


By zurristic






Tip of day

กราฟ SET แสดงแบบราย 1นาที จะช่วยในการดูแนวโน้มตลาดในระหว่างวันได้ เมื่อมีการซื้อมากจนค่า RSI ถึง 70% ก็จะมีแรงขายออกจน RSI ลงมาที่ 30% แล้วมีแรงซื้อกลับสลับกันไปมาแบบนี้ในช่วงผันผวน แต่เมื่อเป็นขาขึ้นกราฟแท่งเทียนจะวิ่งชนขอบบนของ Bollinger ค่า RSI เกิน 70% เมื่อวิ่งขึ้นชนเรื่อยๆ กราฟจะมีความชันประมาณ 45องศา แสดงให้เห็นว่า SET เป็นขาขึ้นแล้ว เราก็เลือกเข้าซื้อหุ้นที่ต้องการได้

  
 (คลิ๊ก ภาพขยาย)

จากภาพ กราฟขึ้นชนเส้น RSI 70% ผ่านไปประมาณ 40นาที SET มีแรงขายลงที่ RSI 30% แล้วมีแรงซื้อกลับต่อเนื่องวิ่งขึ้นมีความชัน 45องศา ตลอดจนปิดตลาดในวันนั้น


หุ้นตัวนี้ราคาขึ้นไปตาม SET ช่วงที่เป็นขาขึ้น



นักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) เริ่มที่ห้าหมื่นบาท 8ปี พอร์ตโตเลขแปดหลัก







Age Technology & Antioxidant
สารต้านอนุมูลอิสระและชะลอความชรา