การทำ AHA และ Ionto AHA
กรดอัลฟ่าไฮดร๊อกซี่ หรือกรด AHA ( Alpha Hydroxy Acid ) เป็นกรดที่ได้จากผลไม้ตามธรรมชาติ เช่น กรด แลคติค ในนมเปรี้ยว กรดทาร์ทาริก ที่พบบ่อยในไวน์ ที่บ่มนานๆ หรือกรด ไกลคอลิก ในอ้อย พบว่า กรด AHA มีคุณสมบัติในการ กระตุ้นเซลล์ ชั้นหนังกำพร้า ให้หลุดลอกออก แล้วเร่งให้มีการสร้าง เซลล์ผิวหนัง ใหม่ ขึ้นมาแทนที่ ผิวหนังใหม่จึงดูสดใส ขาวนวลกว่า เหมือนผลัดผิวใหม่
แม้กรด AHA จะมีส่วนช่วยให้ผิวขาวขึ้น ทำให้ริ้วรอยด่างดำ จางลงได้ แต่ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีกรด AHA ในปริมาณความเข้มข้นของกรดต่ำ เพราะอาจทำให้ผิวหน้าลอกได้ หากไม่มั่นใจ ควรขอคำปรึกษา จากแพทย์ผิวหนัง สามารถทำต่อเนื่องได้6 ครั้ง โดยเว้นระยะครั้งละ2-3 สัปดาห์ แต่จะใช้น้ำยาความเข้มข้นสูงหรือต่ำขนาดใด และลอกบ่อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยค่ะ
ส่วนการทำ AHA เป็นการใช้กรดผลไม้ทาผิวหน้า เพื่อช่วยทำให้เซลล์ที่หมองคล้ำของผิวหน้าในชั้นหนังกำพร้าส่วนบนหลุดลอกออกง่ายขึ้น พร้อมกับกระตุ้นสร้างเซลล์ใหม่ที่สดใส ส่วนที่เป็นครีม Whitening ทั้งหลาย ส่วนประกอบจะมีครีมกันแดดและแป้งเป็นหลัก ก็เลยทำให้ผู้ใช้ดูขาวขึ้นค่ะ
Ionto
ไอออนโต ป็นการขับยาหรือวิตามินเข้าสู่ผิวหนังโดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าปริมาณต่ำ ๆ เพื่อช่วยผลักตัวยาเข้าสู่ผิวหนัง ทำให้เห็นผลเร็วกว่าทายาทั่วไป เพื่อทำให้หน้าขาวและลบริ้วรอย การที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากอัลคาไลน์ แบตเตอรี่ความแรงประมาณ 9 โวลท์ผลักดันโมเลกุลของยาเข้าสู่ชั้น หนังแท้ของเรา ส่วนตัวยาที่ใช้ก็ต้องเป็นยามีคุณสมบัติยินยอม ที่จะถูกผลักโดยกระแสไฟฟ้าให้เข้าสู่ผิวพรรณตรงนั้นได้ ที่ใช้ในปัจจุบัน คือ วิตามินซี ฟอร์มที่ไม่สลายง่าย โดยหวังว่าวิตามินซีจะช่วยลบรอยดำบนใบหน้าได้ ปฏิบัติการนี้นิยมทำสัปดาห์ละครั้งส่วนตัวยาวิตามินซีละลายในน้ำกลั่นดังนั้นสิ่งที่ทาบนผิวหน้าจะประกอบด้วย วิตามินซี น้ำกลั่นและกระแสไฟฟ้า 9 โวลท์ ทำครั้งละ10-15 นาทีสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลา 2-3 เดือน
เครื่องมือนี้ควรใช้โดยแพทย์เท่านั้น เนื่องจากในการใส่ยาเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผลข้างเคียงก็มีได้บ้าง เช่น เกิดการระคายเคืองที่ผิว แสบร้อน จุดแดงๆ ขนาดเล็กกระจายตรงบริเวณที่ขั้วไฟฟ้าสัมผัส แต่มักจะหายเองภายใน 2-3 วัน ถ้ามีอาการแสบร้อนตรงผิวขณะทำควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีเพื่อแก้ไข
ประโยชน์ ลดรอยแผลเป็นจากสิว ลดรอยดำจากแผลทั่วไป ลดรอยดำหลังทำLaser รักษากระ ฝ้า ทำให้ผิวหน้าขาวใส นุ่มเนียน หลังทำ Ionto ใบหน้าเป็นสีชมพูระเรื่อ เนื่องจากกระแสไฟฟ้ากระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น สามารถทำได้ทั้ง สุภาพบุรุษ และสุภาพสตรีที่ต้องการมีใบหน้าอ่อนใส สะดุดตา
รักษาสิวด้วยหัวหอม
หัวหอมที่ชอบทานกันนั้น ทราบหรือไม่ว่า สามารถนำมารักษาสิวได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาบอกกัน… ในหัวหอมสดประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหย (Vilatile Oil) ซึ่งประกอบด้วยไดอัลลิน ไตรซัลไฟต์ (Diallyn Trisulfide) เช่นเดียวกับที่พบในกระเทียม นอกจากนี้ยังมีฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ไกลโคไซด์ (Glycosides) เพคติน (Pectin) และกลูโคคินิน (Glucokinin) ซึ่งสารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรีย ลดไขมันเส้นเลือดอันเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ ทำให้เจริญหาอาหารและช่วยย่อยอาหาร นอกจากนั้นยังพบอีกว่าในหัวหอมยังมีสารฟอสฟอรัสในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยให้ความจำดีอีกด้วย
ประโยชน์ของหัวหอมนอกจากบำรุงร่างกายแล้วยังรักษาสิวได้อีกด้วย
วิธีทำ คือ ทุบหรือฝานหัวหอมแดงให้เป็นแว่นบาง ๆ ใช้ทาบริเวณที่เป็นสิว ฝ้า หรือ จุดด่างดำ ไม่กี่สัปดาห์ สิว ฝ้า หรือจุดด่างดำ ก็จะหายไป
ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันดูได้.
ที่มาจาก เดลินิวส์
http://women.mthai.com/health/19406.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น