Money In Stocks - ออมเงินในหุ้น

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ทบต้นหุ้น

 

ลงทุนหุ้นแบบทบต้น

การลงทุนแบบทบต้น จะต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ซึ่งเป็นแนวทางที่กลุ่ม VI ใช้ในการลงทุนและจะไม่มีการถอนเงินออกมาจากพอร์ตเลย ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ซึ่งจะทำให้พอร์ตโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากเงินต้นที่มากขึ้น VI จะเก็บเงินต้นไว้ในพอร์ตและจะรอรับปันผลจากหุ้นแต่ละตัว โดยจะมีการโอนเงินปันผลเข้าในบัญชีธนาคารของนักลงทุนโดยตรงเลย ไม่ต้องแจ้งขอถอนเงินเหมือนกับการเอาเงินออกจากพอร์ต นักลงทุนจึงไม่ต้องกังวลว่าจะสับสนกับเงินต้นในพอร์ตของตนเอง

สำหรับการเก็งกำไร การลงทุนแบบทบต้นก็ควรจะมีเงินเพิ่มเข้าไปในพอร์ตทุกเดือนเช่นกัน และกำไรที่ได้จากส่วนต่างของราคาหุ้นก็ทบเข้าไปเป็นเงินต้นด้วย โดยไม่ถอนออกมาใช้เช่นเดียวกับแบบ VI ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนไม่มากนัก อาจจะงดการเอาเงินเข้าพอร์ตในเดือนนั้นๆ เพื่อนำเงินไปใช้แทนการถอนเงินจากพอร์ตออกมา

การลงทุนแบบทบต้นจึงทำได้ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาวในแบบ VI จะต่างกันที่การเก็งกำไรจะมีการซื้อขายหุ้นบ่อยครั้งในแต่ละเดือน และที่สำคัญคือมีต้นทุนของค่าธรรมเนียมเมื่อเกิดการซื้อขายหุ้น การลงทุนระยะสั้นจึงมีต้นทุนและความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนระยะยาว ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ประมาณ 0.15% ของราคาหุ้นสำหรับการเทรดแบบออนไลน์ แต่กำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นจะได้รับการยกเว้นภาษี ส่วนเงินปันผลของหุ้นจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%


 

ในภาพตัวอย่าง คิดกำไรที่ 5% ต่อเดือน เผื่อการขาดทุน ในช่วงหุ้นตก 120จุด ผมขาดทุนหักลบกลบหนี้กันแล้วเหลือกำไรประมาณ 3% ต่อเดือน ที่กำไร 5% หนึ่งปีจะมีเงินรวมสุทธิแสนหกหมื่นบาท ถ้าคิดที่ 10% เงินสุทธิจะเป็น 235,000บาท

การทำกำไรกับหุ้นรายตัวที่ 10% เป็นเรื่องปกติที่จะทำได้ อยู่ที่ว่ากำไรของทั้งพอร์ตจะออกมาเป็นเท่าไหร่ในแต่ละเดือน มีหุ้นตัวที่ขาดทุนมากน้อยแค่ไหน




ในช่วงสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤษภาคม 56 ตลาด SET ขึ้นมาที่ 1,649จุด ทำจุดสูงสุดในรอบ 19ปี โดยจุดสูงสุดตั้งแต่เปิดตลาดอยู่ที่ 1,789จุด ในปี 2537 การที่หุ้นขึ้นมาสูงในรอบนี้ ทำให้การเก็งกำไรไม่เป็นไปตามคาด เพราะมีการขายทำกำไรออกมาเป็นระยะและมีการเก็งกำไรแบบรายวันมากด้วย เนื่องจากมีความไม่มั่นใจว่าหุ้นจะขึ้นไปได้มากกว่านี้ นักลงทุนจึงควรลงทุนด้วยความระมัดระวังในช่วงนี้ หุ้นที่มีการขึ้นเครื่องหมายต่างๆ ต้องระวังสำหรับการเก็งกำไร วันก่อนซื้อหุ้นที่ขึ้น XW คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร แต่หุ้นตัวนั้นปรับราคาลงเหมือนการขึ้น XD เลย ทำให้ต้องมองหาการลดความเสี่ยงลงหน่อย ผมจึงหันไปซื้อกองทุน ETF เพื่อรอดู SET ว่าจะขึ้นไปได้มากกว่านี้หรือป่าว

กองทุน ETF มีการอ้างอิงในหลักทรัพย์หลายกลุ่ม Gold ETF เป็นกลุ่มที่อ้างอิงกับทองคำจะเสมือนเราลงทุนในทองคำ ราคากองทุนจะขึ้นลงตามราคาทองคำโลก จะเปลี่ยนแปลงตาม SET ไม่มากนัก เราไม่ต้องซื้อทองจริงหรือเล่น Gold Future ก็สามารถลงทุนในทองคำได้และมีความเสี่ยงน้อยกว่า ซื้อขั้นต่ำได้ 100หุ้น เริ่มได้ที่หลักร้อยบาท ช่วยให้เราลงทุนในหลักทรัพย์อื่นได้นอกจากหุ้นรายตัวใน SET และจะช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตหุ้นได้บางส่วน สามารถซื้อขาย ETF ได้เหมือนหุ้นรายตัวสะดวกกว่าการซื้อทองจริง Gold ETF จะมีทั้งหมด 5 ตัว นอกจากนี้ยังมี ETF ที่อ้างอิงหลักทรัพย์อื่นอีก ที่น่าสนใจ เช่น ETF ที่อ้างอิงใน SET50 และ SET100 คืออ้างอิงหุ้น 50 และ 100 อันดับแรกใน SET ซึ่งเป็นหุ้นที่ถูกคัดเลือกจากผลประกอบการที่ดีของบริษัทนั้นๆ

ช่วงนี้ทองคำราคาตกลงมาไม่ถึงบาทละ 20,000บาท เป็นช่วงที่สามารถเก็บ Gold ETF ได้ แต่ต้องระวังโดยเก็งกำไรแบบเข้าแล้วออกเร็ว เพราะราคาทองคำดูจะไม่ขึ้นกลับไปเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถ้าอยากจะเก็บทองจริงๆ ไว้ ก็จะได้ทองราคาถูก ครับ

รายชื่อ ETF -  http://www.set.or.th/th/products/etf/etf_list.html

ราคาทองคำ - http://www.goldtraders.or.th/DailyPrices.aspx


 
แอพพิเคชั่น ราคาทอง



By zurristic



* XW (Excluding Warrant): ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหลักทรัพย์

Warrant คือ
http://stock-trading-technic.blogspot.com/2012/09/warrant.html





AgeLoc Technology & Antioxidant
สารต้านอนุมูลอิสระและชะลอความชรา









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น