Money In Stocks - ออมเงินในหุ้น

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556

ตื่นขายหุ้น


Panic Sell

ในช่วงอาทิตย์ที่สามของเดือนมีนาคม 2556 มือใหม่ที่เข้ามาเล่นหุ้นได้เจออาทิตย์วิปโยค หลังจากที่หุ้นขึ้นไป 1600จุด มีข่าวของประเทศไซปรัสที่ธนาคารจะล้มละลายต้องขอความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป ในบ้านเรามีเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ประมาณ 29.10 บาท แล้วหุ้นก็ตกอย่างแรงติดกันสี่วันจนถึงวันศุกร์ลงมาที่ 1478จุด ลงมา 120จุด การตื่นตระหนกขายเกิดมาตั้งแต่วันอังคารและเทขายต่อเนื่อง จนไม่ว่ามือเก่ามือใหม่ขาดทุนกันถ้วนหน้า มือใหม่ก็ได้บทเรียนกันไปเสียค่าหน่วยกิตไปพอสมควร

เหตุปัจจัยทั้งสองเรื่องดูเหมือนไม่น่าจะมีผลรุนแรง แต่ไซปรัสยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดจนถึงวันอาทิตย์ที่กำลังเขียนอยู่นี้ ส่วนค่าเงินบาท ธนาคารชาติบอกจะไม่เข้าแทรกแซง และมีข่าวลือเรื่องมีการเตรียมการนายกตัวสำรองด้วย รวมทั้งหุ้นขึ้นมาถึง 1600จุด ซึ่งเป็นแนวต้านสถิติใหม่ นักลงทุนที่ถือหุ้นมาระยะหนึ่งจึงเทขายทำกำไรออกมา ทั้งหมดนี้จึงทำให้หุ้นดิ่งลงเหวแบบเบรคแตก ขายทิ้งกันไม่ทันเลย

มือใหม่จำนวน 40,000 บัญชี คงได้ทราบซึ่งกับตลาดหุ้นกันแล้วรวมทั้งผมด้วย หุ้นตัวไหนที่ยังเขียวอยู่ในพอร์ต เป็นหุ้นตัวที่ดีมากๆ ที่สามารถต้านการลงของตลาดได้ มือใหม่ก็เก็บไว้ในพอร์ตต่อไปได้เลยครับ

วันจันทร์นี้ (25มี.ค.56) เราควรเลือกหุ้นที่เรารู้จัก แบบ saveๆ เลือกจาก SET50 จะปลอดภัยที่สุด หุ้นกลุ่มค้าปลีก เราได้ใช้บริการเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะซื้อของกินของใช้ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน หุ้นสื่อสาร ไอที ธนาคาร ทีวี โรงพยาบาล พลังงาน มีให้เลือกเยอะ หุ้นที่ไม่รู้จักและไม่ดัง ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ควรซื้อ ผมโดนมาสองตัวขายทิ้งไป กำไรที่ได้มาหมดไปเลยกับสองตัวนี้ที่ไม่รู้จักมาก่อน

การหยุดขาดทุน ตัดขาดทุน (stop loss, cut loss) สำคัญมากสำหรับการลงทุนในช่วงขาลงแบบนี้ วันจันทร์นี้ ถ้ายังลงต่อต้องพร้อม cut loss เลย ถ้าไม่รีบตัดสินใจจะขาดทุนหนักกันเลยทีเดียว


 


ย้อนกลับไปเรื่องลูกพี่ลูกน้องของผม ที่ทำร้านขายยาที่เขียนไว้คราวก่อน น้องเขาเล่นหุ้นมาก่อนผมได้ประมาณหกเดือนแล้ว แต่ผมเพิ่งทราบ

การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยง การเปิดร้านขายยาอาจมีความเสียงมากกว่าในช่วงเปิดร้านใหม่ แต่สำหรับน้องของผมเล่นหุ้นด้วย ความเสียงจึงถูกถัวเฉลี่ย ความเสี่ยงของน้องจึงน้อยกว่าผมที่ลงทุนในหุ้นอย่างเดียว

เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด นอกจากลงทุนในหุ้นแล้ว เราอาจจะซื้อพันธบัตร ซื้อกองทุน LTF, RMF, ETF หรือฝากเงินกับสหกรณ์ดอกเบี้ย 4-6% เอาแน่นอนหน่อยก็ซื้อทองคำแท่งครับ ไม่แน่ใจว่าขนาดสลึง ห้าสิบสตางค์จะหาซื้อยากหรือป่าวในต่างจังหวัด หรือจะซื้อทองรูปพรรณก็จะได้ใส่ด้วย ลงทุนเท่าที่จำนวนเงินที่มีอยู่ในรูปแบบอื่นๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงของการลงทุน 

ปัญหามีอยู่ว่า ผมไม่ได้มีเงินมากพอที่จะกระจายความเสี่ยงได้หลายๆ แหล่งนะซิครับ


By zurristic


 













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น