กราฟหุ้น Fibonacci
ใครที่เล่นหุ้น หรือ ค่าเงิน คงจะรู้จักการลากเส้น Fibonacci กันมาบ้างแล้วในการดูกราฟทางเทคนิค ที่เขียนในครั้งนี้จะเล่าเรื่องที่มาของฟิโบเนชชิว่ามีความน่าสนใจพอสมควร
Fibonacci คือชื่อของนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ลีโอนาร์โด ฟิโบเนชชี (ประมาณ ค.ศ. 1170 – 1250) ดูประวัติในลิงค์ด้านล่าง เขาได้ค้นพบชุดตัวเลขด้านล่างนี้
Fibonacci number 1 1 2 3 5 8 13 21 34 55 89 144 233 377 …….
ชุดตัวเลขนี้เป็นตัวอย่างการคำนวณของฟิโบเนชชี โดยเลขสองตัวหน้าบวกกันแล้วได้ตัวหลัง 1+1=2, 2+3=5 ต่อไปเรื่อย ๆ เป็นต้น ด้วยสูตรการคำนวณของเขา ได้ถูกนำไปศึกษารูปทรงต่าง ๆ ในธรรมชาติตั้งแต่ กาแล็คซี ลายหอย พายุเฮอริเคน ดอกไม้ ผลไม้ ตามตัวอย่างในรูป
คือ รูปร่างของ กาแล็คซี หรือ ลายหอย มีการก่อตัวขึ้นและจัดเรียงตัวในรูปแบบเดียวกันตามสูตรฟิโบ ฯ แล้วได้มีการนำสูตรนี้มาใช้ใน การลากเส้นฟิโบเนชชี ที่มีค่าจาก 0%, 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, 78.6%, 100%, 123.6% ที่เรานำไปใช้เพื่อหาจุดกลับตัวของราคาหุ้นทั้งขาขึ้นและขาลง ดังภาพ
การลากเส้นพิโบในกราฟขาขึ้น จุดที่ 61.8% เป็นจุดที่ราคาหุ้นจะเป็นขาขึ้น และเป็นจุด เข้าซื้อ ตรงนี้ แล้วถือรอเพื่อไปขายที่ 100% เพื่อทำกำไรในการเล่นรอบของหุ้น จุด 61.8 เป็นจุดที่มีพลังสะสมของปริมาณการซื้อแล้วดีดขึ้นไป ในทางกลับกันในขาลงจะเป็นจุดที่จะตกลงมาแรงและไม่กลับขึ้นมาจนกว่าจะลงไปถึงจุดต่ำสุด
มันจึงทำให้เวลาเราลากเส้นฟิโบในกราฟย้อนหลัง แล้วได้เห็นความพอดีของค่าจุดสูงสุดและต่ำสุดตรงตามค่าตามสูตร และการลากฟิโบจึงถูกนำมาใช้ในการทำนายราคาของหุ้นและตลาดในอนาคตเพราะมีความใกล้เคียงพอสมควรที่ราคาหุ้นจะเป็นไปตามสูตรนี้
ที่มาของค่าร้อยละของฟิโบ คือ
61.8% มาจาก 55/89
38.2% มาจาก 34/89
23.6% มาจาก 21/89
78.6% มาจาก 38.2-23.6=14.6 เอาไปบวก 61.8=78.6%
และมีค่าสำคัญค่าหนึ่งคือ The Golden Ratio = 1.618 ได้จากชุดเลขฟิโบเนชี 377/233 ซึ่งเป็นตัวเลขอัตราส่วนของร่างกายมนุษย์ อย่างเช่น กระดูกแต่ละข้อ ใบหน้าคน ถ้าใบหน้ามีเส้นตั้งและเส้นนอนได้ตามสัดส่วน 1.618 นี้ ใบหน้านั้นจะได้สัดส่วน คือ หน้าตาคนนั้นจะ หล่อ และสวย หรือถ้านำไปใช้ในการคำนวณความกว้างและยาวของการออกแบบอาคาร ก็จะได้อาคารที่แข็งแรงสวยงาม ดู VDO ด้านล่างเพิ่มเติม
ค่า 61.8% เป็นชุดตัวเลขของ Golden Ration เช่นกัน การใช้งานในกราฟ จึงเป็นจุดที่ราคาหุ้นจะเปลี่ยนแปลงเป็นขาขึ้นหรือขาลง
จากสูตรฟิโบนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่า ราคาหุ้นและราคาสินทรัพย์ในตลาดเก็งกำไรทั้งหมด จะขึ้นและลงไปตามค่าทางคณิตศาตร์แบบฟิโบนี้ มันจึงสนับสนุน ทฤษฎีระบบผลประโยชน์ ตรงที่ว่า เมื่อมีการซื้อการขายเกิดขึ้น รายใหญ่ระดับโลกรอจับคู่ราคาไม่ว่าจะซื้อหรือขายตลอดเวลานั้น เป็นการเกาะไปกับสูตรฟิโบเนชชี เพื่อรอให้เกิดโมเมนตัมทั้งการขึ้นและลงของราคาหุ้นโดยอัตโนมัติ โดยอาจจะใช้ โปรแกรมโรบอท หรือ การซื้อขายอัตโนมัติด้วยระบบหุ่นยนต์ ที่จะรอจับคู่ราคาในตลาดตลอดเวลา เราซื้อ โรบอทขายให้ เราขาย โรบอทก็รับซื้อไว้ทั้งหมด จุดที่ 61.8% จึงเป็นจุดเกิดโมมันตัมแรงส่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาดังที่กล่าว
ดังนั้น หุ้นที่คิดว่ามีการปั่น มีการขึ้นลงของราคาในระหว่างวัน ทำจุดสูงสุดต่ำสุดหลายรอบในวันเดียว เพราะมีการเก็งกำไรอย่างสมบูรณ์ในหุ้นตัวนั้น และเป็นไปตามสูตรของฟิโบอย่างเห็นได้ชัด การที่มีคนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นตัวนั้นจำนวนมากทำให้ราคาขึ้นลงได้แรง เพราะรายใหญ่ระดับโลกได้เข้ามาจับคู่ราคาอย่างสมบูรณ์ แล้วเกิดการเรียงตัวของเส้นราคากราฟตามสูตรฟิโบ คล้ายกับการเรียงตัวหรือขยายตัวของลายหอยและกาแล็คซี
ไม่ว่าจะเป็น บิทคอยน์ ค่าเงิน หรือ ตลาดที่มีการเก็งกำไรมาก ๆ ก็จะมีกราฟและการเคลื่อนตัวของราคาตามสูตรฟิโบเช่นกัน เพราะรูปแบบและการจัดเรียงตัวของทุกสรรพสิ่งเกิดรูปแบบคล้าย ๆ กันแบบนี้ จึงมีคนพูดว่า บิทคอยน์ นั้นมีกราฟที่ตรงและอธิบายได้ด้วยสูตรฟิโบอย่างดีเยี่ยมเลย เหตุเป็นเพราะบิทคอยน์เป็นตลาดที่มีการเก็งกำไรแบบสมบูรณ์ 100% เนื่องจากมีพื้นฐานในการนำไปใช้จับจ่ายน้อยมากไม่ถึง 1% ของจำนวนบิทคอยน์ที่มีอยู้ทั้งหมดทั่วโลก
ภาพนี้ 1,900 จุด จะเป็นเป้าหมายต่อไปที่ SET จึงไปถึง จากการลากเส้นฟิโบ
สำหรับหุ้นตัวที่มีการถือครองอยู่ในมือเพื่อการลงทุนรับปันผล อย่างเช่น CPALL ราคาจะไม่วิ่งขึ้นลงแรง ๆ เหมือนหุ้นเก็งกำไรเพราะจำนวนหุ้นที่ถูกเก็งกำไรซื้อขายในแต่ละวันน้อยกว่า จำนวนหุ้นและจำนวนเงินไม่มากพอที่จะให้รายใหญ่จับคู่ได้มากพอ ราคาหุ้นจึงมีการขยับขึ้นลงได้น้อยกว่า หุ้นตัวเล็ก ที่มีการเก็งกำไรมาก ๆ และหุ้นแบบ warrant หรือ หุ้นราคาตัวละบาท ยิ่งวิ่งขึ้นลงแรงมาก และเป็นไปตามสูตรฟิโบอย่างสมบูรณ์แบบ ใครที่เคยเล่นน่าจะเข้าใจดี
อย่าง ทองคำ น้ำมัน ค่าเงิน มีการใช้จริงอยู่ในทั้งโลก ราคาก็จะไม่ได้ขึ้นลงให้เห็นในรอบสั้น ๆ ต้องใช้ฟิโบดูในรอบใหญ่เป็นเดือนเป็นปี จึงจะเห็นรอบการขึ้นลงได้ชัดเจนกว่า
ฟิโบเนชชี จึงน่าสนใจมากที่สามารถอธิบายการขยายตัวของกาแล็คซีได้ และยังนำมาอธิบายสิ่งเล็ก ๆ อย่าง ลายของหอย การแตกกลีบของดอกไม้ ผลไม้ ได้อย่างน่าทึ่งมาก ๆ โดยมีสูตรและชุดตัวเลขอันเดียวกัน และคนที่เก่งมากอีกคนคือ คนที่นำมาประยุกค์ใช้กับกราฟหุ้นหรือกราฟตลาดเก็งกำไรได้อย่างดีเช่นกัน
ในรายละเอียดที่มาของสูตรฟิโบ ผมไม่มีความรู้ว่าคำนวณอย่างไร หัวข้อนี้เพียงต้องการเล่าให้ฟังถึงความเชื่อมโยงของสูตรที่ใช้กับกาแล็คซี่ แล้วมาเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต ปรากฏการณ์ธรรมชาติบนโลก จนถูกนำมาใช้ในกราฟหุ้น มันเป็นเรื่องน่าสนใจและไม่น่าเชื่อว่ามันเชื่อมโยงกันได้เหมือนเป็นสูตรสำเร็จ
เด็ดดวงดาวสะเทือนถึงดอกไม้
By zurrist
** Image credit: Google
3D Moving
Electronica