Money In Stocks - ออมเงินในหุ้น

วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

ระวังแชร์ลูกโซ่






ทำไมแชร์ลูกโซ่ผิดกฎหมาย

มีข่าวการทำผิดกฎหมายของธุรกิจขายตรงรายหนึ่งที่เป็นข่าวในช่วงนี้ ข่าวว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นถึง 20,000ล้านบาท เนื่องจากมีบริษัทขายตรงเกิดขึ้นจำนวนมากโดยเฉพาะที่เป็น ขายตรงแบบออนไลน์ ซึ่งทำได้ง่ายและสะดวกเพราะการสมัคร การจ่ายเงิน การขายสินค้า เป็นระบบออนไลน์ทั้งหมด ผู้เข้าร่วมธุรกิจสามารถทำได้บนคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้ทุกขั้นตอน จึงมีบริษัทขายตรงที่ทำผิดบ้างถูกบ้างเข้ามาในธุรกิจรูปแบบนี้มากมาย

แชร์ลูกโซ่ คืออะไร?

ถ้าไม่ดูในรายละเอียดของ แผนธุรกิจ ก็จะไม่เห็นข้อแตกต่างกับธุรกิจขายตรงที่ทำถูกต้อง รูปแบบการขายตรงแบบปกติ จะมีการขายสินค้าเป็นเป้าหมายหลัก ราคาสินค้าเหมาะสมกับคุณภาพสินค้า ถ้า ข้าวสารถุง 1 กิโล ราคา 300บาท แบบนี้คือ แพงเกินไป ในการสมัครสมาชิกไม่ควรมีการได้ค่าหัวจากผู้ที่เราหาเข้ามาเป็นสมาชิก เช่น เมื่อมีสมาชิกใหม่หนึ่งคน เราจะได้ค่าหัวๆ ละ 100บาท ลักษณะนี้เป็นการสร้างรายได้นอกเหนือจากตัวสินค้า แต่หลายๆ บริษัทมีการจ่ายค่าหัว ซึ่งไม่ได้ถือว่าผิดอะไรมากมายถ้าจะมีค่าหัว แต่จะใช้เป็นข้อสังเกตในเบื้องต้น เพราะในบริษัทที่อยู่ในสมาคมขายตรงจะไม่นิยมมีค่าหัว

ในการเล่นแชร์แบบปกติ ถ้ามีผู้เล่น 10คน ลงเงินคนละ 1,000บาท จะได้เงินเป็น 10,000บาท ผู้ที่ได้แชร์มือแรกนำเงินนั้นไปใช้ แล้วเมื่อครบรอบชำระนำเงินนั้นกลับมาให้ลูกแชร์มือที่สองนำไปใช้ต่อเป็นทอดๆ จนครบ 10คน แชร์ที่ผิดปกติอาจจะมีวงเงินจำนวนมากเป็นหลักแสนหรือล้านมีการนำเงินในไปลงทุนในกิจกรรมอื่นๆ นอกจากวงแชร์จึงทำให้แชร์นั้นเกิดปัญหาตามมาที่หลังและเกิดการฟ้องร้องกัน

แชร์ลูกโซ่ จึงเป็นการชักชวนคนเข้ามาทำขายตรงแบบผิดกฎหมายจากการทำธุรกรรมที่ไม่ได้เป็นการขายสินค้า แต่มีรายได้จากกิจกรรมอื่นๆ โดยใช้รูปแบบขายตรงบังหน้า การที่มีการชวนคนเข้ามาต่อกันไปเรื่อยๆ จึงเรียกว่า แชร์ลูกโซ่ เนื่องจากมีผู้เข้ามาร่วมมากและเกิดความเสียหายเป็นเงินจำนวนมากด้วย


แต่กฎหมายที่นำมาใช้กับแชร์ลูกโซ่จะเป็น กฎหมายการฉ้อโกงประชาชน โดยยึดอัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมเงินหรือฝากเงินเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาความผิด และความเป็นไปได้ของผลตอบแทนที่เกิดขึ้นของธุรกิจนั้นๆ และเป็นคดีอาญาจะมีโทษทั้งจำคุกและปรับเงินค่าเสียหาย

ในกรณีของบริษัทที่เป็นข่าวนอกจากมีปัญหาในตัวสินค้าว่ามีสินค้าขายจริงหรือไม่แล้ว จุดสำคัญคือ สกุลเงินที่บริษัทตั้งขึ้นมาเองโดยไม่มีการรองรับของหน่วยงานที่เชื่อถือได้ สกุลเงินอันนี้จะเป็นรูปแบบของ เงินอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic cash) ที่เราคุ้นเคยกันดีคือ บัตรเติมเงินโทรศัพท์ หรือ บัตรเงินทางด่วน โดยบัตรทั้งสองนี้มีค่าตามเงินจริงที่เราไปซื้อบัตรนั้นมา บัตร 100บาท ก็ซื้อด้วยเงิน 100บาท แต่สกุลเงินที่ผิดนั้น มีการปั่นค่าของเงินขึ้นไปถึง 1,000เท่า จึงเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เพราะสกุลเงินนั้นไม่ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทย และมีค่าสูงเกินความเป็นจริง ในตลาดหุ้นของไทยการได้กำไร 100% ไม่ใช่เรื่องแปลกและถูกกฎหมาย แต่ไม่เคยมีประวัติว่าจะมีการทำกำไรได้ถึง 1,000%

ตัวอย่างบ่อนการพนัน เป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย จึงมีการไปเล่นที่บ่อนเขมรที่รัฐบาลของกัมพูชาอนุญาตให้เปิดอย่างถูกกฎหมาย หรือใน สิงค์โปร์ อเมริกา ก็ถูกกฎหมายของประเทศเขา

การซื้อขายสกุลเงินดังกล่าว สมมุติชื่อว่า ABC ในประเทศไทยจึงถือเป็นความผิด รวมทั้งการซื้อขายสกุลเงินต่างๆ เพื่อเก็งกำไร ไม่ว่าจะเป็น เงินบาท/เงินยูโร หรือสกุลอื่น ก็ผิดกฎหมายในประเทศไทย รูปแบบที่ถูกกฎหมายมีเพียง การเก็งกำไรในเงินดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น หรือเรียกว่า US Dollar Future โดยมีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแลถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในอเมริกาและสิงคโปร์สามารถเก็งกำไรค่าเงินในหลายสกุลได้อย่างถูกกฎหมาย





ตัวอย่างที่คล้ายกัน เช่น e-gold เป็นค่าเงินที่อ้างอิงราคาทองคำโลก ก็ผิดกฎหมายของอเมริกาและอีกหลายประเทศ ขณะนี้ไม่มีการใช้แล้ว

Bitcoins เป็น แร่อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีประวัติไม่แน่ชัดในการสร้างขึ้นมา จะได้มาโดยการขุดเข้าไปเอามาจากระบบอินเตอร์เน็ตด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์และมีจำนวนจำกัด เคยมีค่าที่ 1,000ดอลล่าร์/1bitcoin แล้วลดลงมาขณะนี้มีค่าประมาณ 270ดอลล่าร์สหรัฐ และยังมีการซื้อขายในตลาดโลกถึงปัจจุบัน


ราคาของ bitcoins


บริษัทในข่าวจึงมีความผิดในคดีฉ้อโกงตามที่เจ้าหน้าทีแจ้งข้อกล่าวหา เพราะสกุลเงิน ABC ที่ผิดกฎหมายไทยและมีผลตอบแทนสูงเกินความเป็นจริงมาก นอกจากนี้จะต้องดูแผนการตลาดว่ามีความผิดปกติเรื่องอื่นอีกหรือไม่ แม้แต่การขายทุเรียนอ่อนยังผิดกฎหมายเลยครับ ธุรกิจที่มีความซับซ้อนแบบนี้จึงมีความผิดหลายกระทง

ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงเกินจริงเป็นเรื่องที่นักลงทุนและผู้ทำธุรกิจขายตรงจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนเข้าร่วมในธุรกรรมนั้นๆ ในตลาดหุ้นการได้ผลตอบแทน 20%ต่อปี ถือว่ามากแล้วในการลงทุนระยะยาว ในการเก็งกำไรแล้วได้ 100% สามารถทำได้แต่ไม่ง่ายเลย ถ้ามีการลงทุนทางการเงินที่ได้ผลตอบแทนมากกว่านี้ เป็นไปได้เหรอที่จะมีคนไม่รู้ โดยเฉพาะนักการเงินการธนาคารที่มีความชำนาญและมีความรู้อย่างดีเยี่ยมในด้านการเงิน อะไรที่ได้มาง่ายและผลตอบแทนสูงจึงไม่มีอยู่จริง

ผู้สนใจธุรกิจขายตรงสามารถเข้าไปดูรายชื่อในสมาคมขายตรงได้ว่ามีบริษัทที่มีมาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมายของไทย เพื่อไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของธุรกิจที่ผิดกฎหมาย


By zurristic











3D Moving Electronica










วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558

เล่นหุ้นปันผล




ทำกำไรหุ้นปันผล

มีอีเมลของกลุ่มขายตรงส่งเข้ามาบอกว่า เล่นหุ้นมันยาก มาทำธุรกิจกับเราง่ายกว่า ถามว่าจริงมั้ย มันก็จริงนะครับ ยิ่งช่วงหลังมานี้ SET ขึ้นลงแบบเดาทางไม่ถูก ส่วนหนึ่งเป็นเหตุจากเศรษฐกิจของทางยุโรปและกรีซ ดูจากเงินยูโรที่แข็งค่ามากเป็นประวัติกาลที่ 1.05ยูโรต่อดอลล่าร์ คือ เป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนต่างชาติที่ไม่เข้ามาในตลาดไทย ร่วมทั้งการที่เรามีกฎอัยการศึกด้วย SET จึงไม่ไปต่อจาก 1,600จุด

ตามทฤษฏีผลประโยชน์ นักลงทุนรายใหญ่ หรือ เจ้าตลาด ที่มีเพียงประมาณ 3% แต่มีเงินมากเท่ากับคนที่เหลืออีก 97% ของตลาด และเป็นผู้ควบคุมทิศทางของตลาด จากที่นักลงทุนมีความรู้มากขึ้นเจ้าตลาดก็จะหาทางที่จะไม่ให้เราจับทางเขาได้ ทำให้เราเล่นหุ้นได้ยากขึ้น แม้ว่าทฤษฎีนี้ยังไม่ได้มีการยอมรับในวงกว้างและไม่ได้มีการพิสูจน์ทางวิชาการแต่อย่างใด แต่ผมมีความเชื่อว่าตลาดหุ้นเป็นไปตามทฤษฎีนี้ เมื่อคน 97% ขาย เจ้าตลาด 3% ก็จะทำในสิ่งตรงข้ามคือเข้าซื้อเอาไว้หมด รายใหญ่ที่ว่าในประเทศอาจจะเป็น นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ หรือนักลงทุนอิสระรายใหญ่ที่มีเงินมาก




ดังนั้นตลาดจึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงด้วยเหตุผลที่เกิดขึ้นจริงและจะเกิดเหตุการณ์ตรงข้ามกันกับเหตุผลที่เราเข้าใจกันบ่อยครั้ง ในเวลาที่มีการขึ้นลงของตลาดจะมีเหตุผลมารองรับเสนอแต่เป็นเหตุผลที่พยายามจะหามาให้มันเข้ากับสถานการณ์ โดยที่ไม่มีใครรู้ความจริงที่เกิดขึ้นเป็นตามเหตุและผลนั้นหรือไม่ เพราะคนที่รู้ว่าทำอะไรให้เกิดขึ้นกับตลาดก็มีเพียงเจ้าตลาดเท่านั้น คนอื่นๆ ทำได้เพียงคาดเดาเอาเท่านั้นว่าเกิดอะไรขึ้น ตลาดทุนจึงเป็นเรื่องของอารมณ์และจิตวิทยาเป็นส่วนใหญ่ ที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์หรือเหตุผลที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้น

และทฤษฎีนี้พูดถึงตลาดทั้งหมดในโลกไม่ได้อธิบายเฉพาะตลาดใดตลาดหนึ่ง ตัวอย่างที่เรารู้จักกันดีคือ วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ต้มยำกุ้ง ที่มีการเก็งกำไรค่าเงินบาทโดยนักลงทุนรายใหญ่ชื่อ จอร์จ โซรอส เป็นการโจมตีค่าเงินบาทโดยนักลงทุนต่างชาติ แสดงให้เห็นว่าตลาดทุนของโลกมีความสัมพันธ์กันหมด เงินไหลไปมาหากันเป็นเรื่องปกติ ตลาดหุ้นไทยจึงเป็นตลาดของรายใหญ่อย่างแท้จริงเพราะมีขนาดเล็กมาก จะให้ตลาดเป็นไปอย่างไรก็ได้ถ้ารายใหญ่ต้องการ สัดส่วน 3/97% จึงเป็นตามนี้ในตลาดโลกด้วย ดูจากราคาน้ำมันที่ลงมาที่ต่ำกว่า 50ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล ก็เป็นเพราะผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ตั้งใจจะให้ราคาต่ำลงแบบนี้ เพื่อกำจัดคู่แข่งที่เป็นรายเล็กกว่าและแบกรับต้นทุนที่สูงกว่าไม่ได้


SAMART


ถ้าเราลดการเก็งกำไรระยะสั้นลงได้การลงทุนในหุ้นก็จะไม่ยากเกินไป กับการที่จะได้ผลตอบแทนประมาณที่ 10% จากสภาพตลาดที่จะได้ผลตอบแทนสูงไม่ง่ายนักในช่วงนี้ ผมจึงค้นหาหุ้นที่จ่ายปันผลดีเพื่อช่วยให้เราลงทุนระยะยาวได้และทำกำไรเป็นรอบได้ด้วย หุ้นปันผลที่ว่านี้จะจ่ายปันผลที่ 3-4% ส่วนอีก 6% เราได้จากการขายทำกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น โดยปกติส่วนต่างของราคาจะได้ 10% หรือมากกว่าก็เป็นเรื่องปกติ ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยประมาณ 10% รวมปันผลและส่วนต่างราคาเป็นค่าขั้นต่ำที่เราจะทำได้ไม่ยากนัก ตัวอย่างหุ้นปันผล 3-4% ได้แก่ DELTA, HANA, JMART, SGP, SPALI, SAMART, SINGER, AMATA, MC, TVO, GC

DELTA มีส่วนต่างราคาได้ถึง 18% และ HANA 12% ในหนึ่งเดือน SGP ขึ้นได้ 5% หลังจากเข้าซื้อเพียงวันเดียวจากการรีบาวด์ของ SET, SPALI ก็ขึ้นไปจนซื้อไม่ทัน AMATA, MC, TVO, SINGER วอลลุ่มอาจจะน้อยไปหน่อยแต่ก็พอขยับขึ้นไปได้ อย่าง GC เป็นหุ้นปิโตเคมี-พลาสติก ที่ได้จากการสแกนหุ้นไม่รู้จักมาก่อน แต่น่าสนใจตรงที่ราคา 4บาทกว่า แต่ปันผลที่ 5% ส่วนตัวอื่นๆ ราคา 10บาท ขึ้นไปกันหมด


SPALI


การลงทุนในหุ้นปันผลจะช่วยให้เราไม่กังวลกับการขึ้นลงของราคามากนัก เพราะเราถือหุ้นตัวนั้นรอปันผลเพื่อลดความเสี่ยงจากการเก็งกำไรระยะสั้น ถ้าราคาขึ้นไปสูงเกินไปเราก็แบ่งขายทำกำไรออกไป และเข้าเก็บเมื่อราคาลงมาต่ำๆ ยิ่งต่ำยิ่งดี โดยที่งบการเงินและผลประกอบการยังดีอยู่ ค่า PE ที่ 10-25 ช่วยบอกได้ว่าราคาหุ้นตัวนั้นไม่สูงเกินไป และ Market Capital ไม่สูงไปกว่าสินทรัพย์ของบริษัท ถ้าสูงกว่าแสดงถึงราคาหุ้นที่สูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทนั้น

ตัวอย่างถ้าเราลงทุน 100,000บาท ซื้อ SPALI ที่ 22.40บาท จะได้ 4,400หุ้น ถ้าปันผล 4%, 0.89บาทต่อหุ้น จะได้เงิน 3,916บาท แล้วหลังจากนั้นถ้าเราขายทำกำไรไปครึ่งหนึ่ง 2,200หุ้น ที่ 24.40บาท ถ้าราคาขึ้นไป 2บาท (9%) จะได้เงินอีก 4,400บาท รวมเป็นเงิน 8,319บาท เป็นผลตอบแทนที่ 13% จากการซื้อได้ที่ราคาต่ำช่วยให้ลดความเสี่ยงและได้ผลตอบแทนที่ดีไปด้วย ตลาดหุ้นจึงให้ผลตอบแทนมากกว่าช่องทางอื่นๆ


เล่นหุ้นง่ายนิดเดียว
ใจเย็นๆ รอปันผล


By zurristic




JMART



Note:
คุณพิชัย จาวลา บอกว่า SET ในช่วงปี 58 นี้ จะขึ้นไปชนแนวต้าน 1,600จุด อาจจะชนแล้วชนอีกหลายครั้ง แล้วในที่สุดจะผ่านไปได้และจะไปถึง 1,700จุด ได้ มีบางหลักทรัพย์ก็เชื่อว่าจะไปได้ถึง 1,700-1,800 เช่นกัน แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่า SET จะขึ้นไปได้ขนาดนั้น

ตามทฤษฎีผลประโยชน์ ถ้าคนส่วนน้อยมองว่า SET จะไปที่ 1,700จุด และคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าจะขึ้นไปได้ นั้นเป็นจุดที่ตลาดจะขึ้นไปสูงได้

สำหรับทองคำ คุณพิชัย บอกว่า ที่ 1,200ดอลล่าร์/ออนซ์ เป็นแนวต้านของทองคำเช่นกัน เมื่อราคาต่ำกว่า 1,200 เป็นจุดซื้อและซื้อได้ทุกราคา และทองคำจะกลับขึ้นไปได้อีกในปี 58นี้ ถ้าเป็นเงินบาทประมาณ 18,000บาท เมื่อราคาต่ำกว่านี้เป็นจุดซื้อสะสมทองคำแท่ง ผู้ที่มีพอร์ตหุ้นสามารถซื้อกองทุนทองคำ TGOLDEFT, GLD สะสมได้เช่นกัน ใช้เงินหลักพันก็ซื้อสะสมได้แล้วและรอทำกำไรที่ประมาณ 5-10% ได้ในรอบ 3เดือนขึ้นไป

และราคาน้ำมันโลก หลายหลักทรัพย์บอกว่า ที่ 55ดอลล่าร์/บาร์เรล น่าจะเป็นจุดต่ำสุดในช่วงนี้ จุดนี้จึงเป็นจุดซื้อ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นพลังงานหรือกองทุนน้ำมัน เช่น ENGY, ENY ทำกำไร 10% ได้ตามการขึ้นของราคาน้ำมันโลก แต่ต้องเข้าไม้แรกให้ได้มากที่สุดทั้งทองคำและน้ำมัน


๐๐๐

---ทฤษฎีผลประโยชน์













5.1 Moving Electronica