Money In Stocks - ออมเงินในหุ้น

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การสแกนหุ้น





สแกนหุ้นด้วยตัวเอง

ช่วงนี้ตลาดพักฐานไปที่ 1520จุด แล้วรีบาวด์กลับมาที่ 1599จุด นักวิเคราะห์หลายเจ้ามองว่าจะผ่าน 1600จุด ไปได้และอาจจะไปถึง 1700จุด จากทฤษฎี Elliott wave ในช่วงพักฐานนับคลื่นได้เป็น A, B, C แล้วรีบาวด์ขึ้นเป็นคลื่น 1 อันนี้ผมนับเองนะครับเทียบกับภาพด้านล่าง แต่นักวิเคราะห์นับเป็นคลื่น B แต่ถ้าหุ้นทะลุผ่านจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ 1602จุด คลื่นนี้จะเป็นคลื่นที่ 1 ตามแบบภาพกราฟ Elliott


Elliott Wave

SET ยังไม่ผ่านจุดสูงสุดเดิมที่ 1602จุด นักวิเคราะห์นับเป็นคลื่น B
แต่ตามทฤษฎีแล้ว คลื่น A B C น่าจะเป็นช่วงพักฐานไม่น่าจะรีบาวด์ขึ้นมามากแบบนี้
ผมจึงมองว่าน่าจะกลับเป็นขาขึ้นในคลื่นที่ 1


ตลาดมีความผันผวนพอสมควรในช่วงนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นขาขึ้นเพื่อทำจุดสูงสุดใหม่แต่ไม่สามารถขึ้นไปได้ เหมือนราคาหุ้นรายตัวจะขึ้นไปได้แต่ก็มีแรงเทขายสลับตัวเล่นไปมา การเก็งกำไรระยะสั้นจึงเป็นวิธีที่เหมาะสมในช่วงนี้

การใช้โปรแกรม MetaStock สแกนหุ้นจากสูตรในโปรแกรมหรือจากที่มีผู้เขียนขึ้นมาใช้เอง เช่น ของลุงโฉลก สูตร Pre-Buy คือเลือกหุ้นที่กำลังจะขึ้นจุดซื้อเป็นจุดก่อนหุ้นขึ้นซึ่งจะได้กำไรเต็มรอบของหุ้นตัวนั้น ลุงโฉลกจะเทรดหุ้นโดยไม่ดูพื้นฐานหรือไม่รู้จักหุ้นตัวนั้นเลย เมื่อได้หุ้นจากการสแกนมาแล้วจะเลือกตัวที่คิดว่าดีที่สุด 5-10ตัว และเข้าซื้อทันทีแล้วปล่อยให้หุ้นขึ้นไปถึงจุดสูงสุดจึงขายทำกำไรด้วยการใช้เส้น Telling stop บอกจุดกลับตัวลงของหุ้น (ดูยูทูบลุงโฉลกในบทความทีแล้ว)


ระหว่างการสแกนหุ้น


น้องชายผมได้ทดลองใช้การสแกนหุ้นด้วยวิธีนี้ส่วนนึงและเลือกหุ้นเองบ้าง รวมทั้งซื้อหุ้นที่นักวิเคราะห์เชียร์ สามารถทำกำไรได้ประมาณเดือนละหมื่นกว่าบาท


ผลของการสแกน เราต้องเลือกหุ้นที่คิดว่าดีที่สุดจากรายชื่อทั้งหมดเพื่อเข้าซื้อตามระบบ


บนมือถือมีแอพฯ ที่ใช้สแกนหุ้นชื่อ Market anyware ดาวโหลดได้ฟรีแต่การสแกนหุ้นจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม ถ้าใครเป็นลูกค้าของ บล.SCBS จะมีแอพฯ แบบเดียวกันนี้ให้ใช้ฟรี ผมกำลังทดสอบเลือกหุ้นด้วยการสแกนจากแอพนี้ฯ ได้ผลเป็นอย่างไรจะเขียนในตอนหน้าครับ

การสแกนหุ้นด้วยสูตร MACD Bullish ของ บล.SCBS




นักวิเคราะห์บอกว่ามือใหม่จะใช้เวลาศึกษาในตลาดหุ้นอย่างน้อย 2ปี เดือนกุมภาพันธ์ 2558 นี้ ผมจะเข้าตลาดมาครบ 2ปี ได้เสียค่าเทอมไปหลายหมื่นแต่ไม่ถึงแสน ถึงวันนี้ยังไม่ได้ค่าเทอมคืนมา ผมจึงได้เลือกวิธีการลงทุนโดยมีการถือลงทุนระยะยาวและแบ่งขายตามรอบของหุ้น อีก 20% จะเก็งกำไรระยะสั้น แต่ช่วงหลังมานี้ไม่ค่อยได้กำไรเข้าผิดจังหวะตลอด

วันก่อนผมได้ฟัง คุณป้อม ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา จากยูทูบ เจ้าของชุมชนชาวหุ้น stock2morrow ผู้ที่ประสบความสำเร็จจาก “หุ้นขี้บุหรี่ (Penny stocks)” คือหุ้นที่ราคาต่ำกว่า 1บาท ถ้าอเมริกาเป็นหุ้นที่ต่ำกว่า 1ดอลล่าร์ คุณป้อมพูดว่า “มีเงินน้อยเล่นหุ้นตัวใหญ่เมื่อไหร่จะรวย” ผมนอนฟังอยู่เลยลุกขึ้นมานั่งฟัง



คุณป้อมซื้อหุ้น BLAND ที่ 0.50บาท, RML ที 0.29บาท ขายที่ราคา 1บาทกว่าๆ ปัจจุบันยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ IEC ถึงแม้จะเล่นหุ้นราคาถูกแต่เขามีวิธีการซื้อสะสมแบบ VI แล้วถือเป็นเวลาสามปี จากเงินหลักล้านพอร์ตเขาโตเป็นสิบล้านด้วยหุ้นขี้บุหรี่แม้ว่าปีแรกที่เข้าตลาดจะขายทุนไป 1ล้านบาทเพราะการเล่นเทรดระยะสั้น ผมได้ซื้อหนังสือเรื่อง “หุ้น 5เด้ง” ของคุณป้อมมาอ่านเพิ่มเติมและอีกเล่มเรื่อง One up on wall street ของปีเตอร์ ลินซ์ ผู้เป็นนักจัดการกองทุน (ดร.นิเวศน์ แปล) ต้นฉบับหุ้นขี้บุหรี่

ปีเตอร์ ลินซ์ แบ่งหุ้นเป็น 6กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มหุ้นโตช้า หุ้นแข็งแกร่ง หุ้นโตเร็ว หุ้นวัฏจักร หุ้นฟื้นตัว และ หุ้นทรัพย์สินมาก ซึ่งได้ใช้มาจนถึงปัจจุบัน เขาจะเลือกซื้อหุ้นที่ไม่มีใครสนใจ เช่น จุกขวดน้ำ บริษัทจัดงานศพ น้ำยาทำความสะอาดผ้า โรงงานกำจัดของเสีย ผู้ผลิตหลอดและช้อนพลาสติก เป็นต้น เป็นหุ้นที่เข้าใจได้ง่ายธุรกิจไม่ซับซ้อนแบบที่ วอร์เรน บัฟเฟต ก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน

BLAND จัดเป็นหุ้นทรัพย์สินมาก (The Asset Plays) เพราะมีที่ดินทำเลดีอยู่หลายแห่ง อย่างเช่นแถวศรีนคริทรฺ คุณป้อมมองเห็นสินทรัพย์ที่ไม่แสดงมูลค่าในบัญชีจึงเข้าซื้อหุ้นตั้งแต่ราคาต่ำๆ

ปีเตอร์ ลินซ์ บอกว่า “มีหุ้นราคาถูกให้ซื้อเยอะแยะ ทำไมอยากจะซื้อหุ้นที่ราคาแพงกัน”

จากหนังสือสองเล่มนี้ผมจึงมีการเข้าซื้อหุ้นขี้บุหรี่เข้ามาในพอร์ตด้วยและลดการซื้อหุ้นราคาแพงลงบางส่วน ถ้าเราไม่ได้ใช้โปรแกรมสแกนหาหุ้น เราสามารถเลือกหุ้นตัวที่เรารู้จักจากร้านอาหารที่เคยใช้บริการ ช่องทีวีที่เราดู ฯลฯ หุ้นที่ผมเลือกได้แก่ MINT BGH BJC VGI BEC TRUE จะมีพื้นฐานค่อยข้างดีจะไม่ลงแรงและจะกลับขึ้นได้เมื่อตลาดรีบาวด์ ถ้าแบ่งขายจะทำกำไรอย่างน้อยที่ 5% และหุ้น 4-5บาท อย่าง SITHAI, SIM จะแบ่งขายออกไปก็ได้ 5% หรือมากกว่าได้เช่นกัน

แต่ BJC กับ VGI ราคาไม่ขยับเหมือนตัวอื่น VGI นักวิเคราะห์ปรับราคาที่เหมาะสม (Fair value) เป็น 11บาท จากการที่พื้นที่โฆษณาลดลง

BGH และ BEC เป็นหุ้นที่สู้กับตลาดผันผวนได้ดี ราคายังขยับขึ้นไปได้แม้จะมีแรงเทขาย ตัวอื่นที่เลือกมาราคาลดลงไปเป็นตัวแดง แม้ว่า BEC บทวิเคราะห์ไม่ค่อยดีจากเรื่องการออกคู่ขนานกับระบบอนาล็อกเดิมแต่ราคาไม่ได้ลงไปตามข่าว ส่วนหนึ่งเพราะช่อง3 ได้ค่าโฆษณามากที่สุดในประเทศ นักลงทุนคงยังเชื่อมั่นว่าช่อง3 ยังเหนือกว่าช่องอื่นๆ อยู่ดี

ดัชนีมาม่า เป็นคำพูดเล่นๆ กันแสดงถึงสภาพเศรษฐกิจไม่ดีเพราะคนกินมาม่ากันเยอะ ผมเลยมาเจอ “ดัชนีกางเกงยีน” จากหุ้น MC ที่ผมถืออยู่ราคาต่ำลงเรื่อยๆ ผมก็ปล่อยไปเพราะปกติเดี๋ยวก็กลับขึ้นมา แต่แล้วมันไม่กลับมาลงไปที่ 16บาทกว่า จึงไปอ่านบทวิเคราะห์ที่ปกติไม่ค่อยอ่าน ปรากฏว่าผลประกอบการมีกำไรลดลงจากสาขา 70% ที่อยู่ในต่างจังหวัด แม้ว่าราคาเป้าหมายจะประมาณไว้ที่ 20บาท แต่ไม่น่าจะกลับขึ้นไปได้ง่าย จากทั้ง VGI และ MC ราคาต่ำลงจากผลการดำเนินงานที่ไม่ดีเหมือนเดิม จึงทำให้ผมต้องอ่านบทวิเคราะห์หุ้นรายตัวมากขึ้น


กลุ่มเป้าหมายของ MC คือกลุ่มคนต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ ตัวผมเองน่าจะเคยซื้อใส่ตอนเด็ก ผมได้สังเกตเห็นเด็กมัธยมใส่ MC และมีเพื่อนร่วมงานอายุ 56 ก็ใส่ ที่ห้าง BigC ขอนแก่น MC ได้ย้ายร้านขนาดเล็กที่อยู่ในแผนกเสื้อผ้าลงมาที่ชั้น 1 แล้วเปิดร้านใหม่ที่เป็นห้องเอกเทศทำเลหน้าประตูห้าง แสดงถึงการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย แต่จากกำไรที่ลดลงของ MC แสดงว่ากลุ่มเป้าหมายไม่มีกำลังซื้อด้วยเหตุใดไม่ทราบได้ อาจจะเพราะเรื่องเงินจำนำข้าวหรือข้าวของ อาหารแพงขึ้นจึงมีความจำเป็นต้องประหยัดกว่าเดิม อันนี้ไม่มีข้อมูลแน่ชัด

การดูข้อมูลพื้นฐานจึงช่วยให้เราสแกนหาหุ้นเองได้ เราเริ่มดูที่ สินทรัพย์ และ Market capital ตัวอย่าง CPALL มีมูลค่าตลาด 399,748ล้าน สินทรัพย์ 300,360ล้าน ราคาหุ้น 44บาท

ค่า PE 41เท่า คือ 41ปี ถึงจะทำกำไรแล้วคืนทุนกับราคาหุ้นที่เราลงทุนซื้อไป แสดงถึงความแพงของราคาหุ้นตัวนี้ มือใหม่จะเลือกซื้อหรือไม่ลองพิจารณาดู การที่มูลค่าตลาดสูงกว่าสินทรัพย์ก็บอกได้ว่าหุ้นตัวนั้นแพงแล้ว

ตัวเลขในปี2554 กำไรต่อหุ้น 1.78บาท ที่ราคาหุ้น 51.75บาท, 46/1.78=29.07 ได้เป็นค่า PE หมายความว่า กำไร 1.78/หุ้น/ปี X 29.07ปี = 51.75บาท ต้องใช้เวลา 29ปี จึงจะคืนทุนจากการซื้อหุ้นที่ราคา 51.75บาท/หุ้น (ผลประกอบการที่เป็นกำไรคิดเป็นรายปี) ราคาหุ้นจะขึ้นมารับการคาดการณ์ในอนาคตแล้วเสมอ

PBV ราคาหุ้นตามมูลค่าในบัญชี 15.67บาท ค่า BVPS มูลค่าหุ้นตามบัญชีเป็น 2.84เท่า 15.67x2.84=44.50บาท ที่เป็นราคาหุ้นล่าสุด คือ ราคาสูงกว่ามูลค่าทางบัญชี 2.8เท่า

DE 9.5เท่า, ถ้า DE=0.30 คือ มีหนี้สิน 0.30 ของส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) 1ส่วน หมายความว่า เมื่อชำระหนี้แล้วจะเหลือส่วนของผู้ถือหุ้น 0.70 แสดงว่ามีความสามารถในการชำระหนี้ได้ดี CPALL มีหนี้สิน 267ล้าน ส่วนของผู้ถือหุ้น 28ล้าน คือมีหนี้เกือบสิบเท่าของส่วนของผู้ถือหุ้น

สำหรับแนวทางหุ้นขี้บุหรี่ ผมเลือก BLAND BMCL LHBANK MACO (ซื้อแทน VGI ที่น่าจะราคาสูงไปแล้ว) หุ้นต่ำบาทหาไม่ง่ายนักในเวลานี้ที่น่าสนใจจะมี NPARK 0.06บาท ที่รอดูอยู่ เพราะเป็นหุ้น Asset plays เช่นกันและมีข่าวการแลกหุ้นกันกับ BTS ด้วย

ที่ดินแถวศรีนครินทร์ของ BLAND


ในการเก็งกำไร การฟังนักวิเคราะห์จะช่วยให้เรามีข้อมูลมากขึ้นและได้ความคิดเห็นหลายๆ ด้าน น้องชายบอกให้ผมซื้อ MILL-W2 ผมได้กำไร 71% แต่ซื้อแค่ 8000บาท น้องชายผมเล่นเก็งกำไรประมาณ 70%ของพอร์ต แต่ผมจะเล่นเก็งกำไร 20-30% จะไม่ค่อยเล่นหุ้นปั่น จะเก็งกำไรหุ้นตัวที่มีพื้นฐานอย่าง PTG, CHO, SUSCO, SVI จะปลอดภัยหน่อยเวลาลงไม่แรงมาก

ส่วนทองคำ GOLD ETF ก็พอเก็งกำไรได้ประมาณ 5% ช่วงนี้ลงมาต่ำสุดในรอบห้าปีที่ 1,135ดอลล่าร์ แล้วรีบาวด์กลับในวันเดียวมาที่ 1,170 แต่ GOLD ETF จะปรับราคาช้ากว่าราคาทองคำโลกเราจึงมีเวลาเข้าเก็บได้ทันก่อนที่หุ้นทองจะขึ้นไปตามตลาด

นักลงทุนหลายๆ คนได้พูดถึงบทความของ ดร.นิเวศน์ เรื่อง “หมดยุคทองของ VI” หุ้นดีๆ ก็แพงกันหมด หุ้นใน MAI ค่า PE ไปถึง 70เท่า จะหาหุ้นขี้บุหรีต่ำกว่าบาทยังยากเลย นักลงจึงต้องหากลยุทธ์ใหม่ที่จะช่วยให้ได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ การลงทุนแบบ VI อย่างเดียวไม่น่าจะประสบความสำเร็จได้แบบเมื่อ 10-20ปี ที่ผ่านมาแล้วได้

การเล่นหุ้นในสถานการณ์ที่หุ้นราคาไม่ถูกแล้ว เราจึงจำเป็นต้องหากำไรจากส่วนต่างของราคามากขึ้น และแบ่งสัดส่วนการลงทุนกับหุ้นปันผล อาจจะ 40/60, 50/50 ตามความถนัดของตัวเอง เป็นการเก็งกำไรแบบเล่นรอบไม่ใช่เทรดระยะสั้นวันสองวัน

ตลาดหุ้นทำเงินให้เราได้แต่ต้องศึกษาเรียนรู้มากพอสมควร คนที่เล่นเป็นอาชีพทั้ง VI และเทรดเดอร์ก็มีให้เห็นหลายคน ดูจากหนังสือเรื่องหุ้นที่มีประมาณจะร้อยปกได้ ถ้ามือใหม่วางแผนที่จะลงทุน Full Time ผมเชื่อว่าทำได้นะแต่ต้องรู้จริงและมีวินัยจึงจะประสบความสำเร็จได้


ควรเลือกหุ้นได้ด้วยตัวเอง ถ้าคิดว่าจะอยู่ในตลาดหุ้น


By zurristic



ฟังนักวิเคราะห์รายวัน





Age Technology & Antioxidant
สารต้านอนุมูลอิสระและชะลอความชรา
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น